ค่าเงินบาท 34.70 บาท แข็งค่าตามภูมิภาค เงินดอลลาร์เริ่มชะลอตัว

น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ 3 มี.ค. 66 ปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.70-34.72 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.30 น.) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียแข็งค่าขึ้น

ขณะที่แรงหนุนเงินดอลลาร์ เริ่มชะลอลงบางส่วน เนื่องจากตลาดปรับตัวรับรู้โอกาสการคุมเข้มนโยบายการเงินด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของเฟดไปมากแล้ว และกลับมารอติดตามสัญญาณเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินจากสุนทรพจน์ของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.65-34.85 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ทิศทางฟันด์โฟลว์ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย ดัชนี PMI ภาคบริการเดือน ก.พ. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ ถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูล PMI/ISM ภาคบริการเดือน ก.พ. ของสหรัฐ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น โดยดัชนี S&P500 สามารถพลิกกลับมา รีบาวด์ขึ้น +0.76% หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการ “เร่งขึ้น” ดอกเบี้ยนโยบายของเฟด หรือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าครั้งละ +0.25% เนื่องจากบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ต่างสนับสนุนการทยอยขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผู้เล่นในตลาดรับรู้มาพอสมควรแล้ว (สะท้อนผ่านมุมมองของผู้เล่นในตลาดจาก CME FedWatch Tool ที่คงคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.50%)

ในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้น +0.51% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม อาทิ TotalEnergies +2.0%, Kering +1.9%, Hermes +1.0% หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนล่าสุดออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่าความต้องการใช้พลังงานจากจีนอาจเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกันกับยอดขายสินค้าแบรนด์เนม อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรปยังคงถูกจำกัดโดยความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารกลางยุโรป (ECB) หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซนยังสูงถึง 8.5%คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ส่วนทางด้านตลาดบอนด์ แม้ว่าผู้เล่นในตลาดจะคลายกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไปบ้าง แต่มุมมองของผู้เล่นในตลาดยังคงเชื่อว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง กอปรกับบรรยากาศในตลาดที่เปิดรับความเสี่ยง ทำให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทะลุโซนแนวต้านสำคัญระดับ 4.00% ได้ในที่สุด และปรับตัวขึ้นต่อสู่ระดับ 4.06% ทำให้ในระยะสั้นมีโอกาสที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐอาจปรับตัวขึ้นต่ออีกได้บ้าง แต่เรามองว่า การปรับตัวขึ้นอาจเริ่มจำกัดลง (อาจไม่ทะลุระดับ 4.25%) เนื่องจาก บรรดานักลงทุนส่วนใหญ่ต่างก็รอจังหวะกลับเข้ามาซื้อบอนด์อยู่

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยเงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ตามภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงสดใสอยู่ ซึ่งล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 105 จุด อีกครั้ง ส่วนในฝั่งราคาทองคำ แม้ว่าตลาดจะคลายกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยเฟดไปบ้าง แต่มุมมองของตลาดยังเชื่อในแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด ทำให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ยังคงแกว่งตัว sideways ใกล้ระดับ 1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านสำคัญแถว 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนกว่าจะมีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ผ่านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Non-Manufacturing PMI) เดือนกุมภาพันธ์ โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ ที่ยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จะช่วยหนุนให้ ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ อาจอยู่ที่ระดับ 54.5 จุด (ดัชนีเกิน 50 จุด หมายถึง ภาวะขยายตัว)

ทั้งนี้ ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ ผ่านรายงานดัชนีด้านราคาในรายละเอียดของรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ ว่าจะยังคงส่งสัญญาณการเร่งขึ้นของราคาต่อเนื่องหรือไม่ หลังดัชนีด้านราคาของ ISM PMI ภาคการผลิตที่ประกาศออกมาก่อนหน้า ได้เร่งขึ้น จนทำให้ตลาดกลับมากังวลแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในฝั่งสหรัฐ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินในระยะถัดไปคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า การเคลื่อนไหวแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ยังมีส่วนทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดก่อนหน้า ส่วนแนวโน้มเงินบาทในวันนี้ คงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจนในระยะสั้น ทำให้เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ หรือ แรงขายหุ้นไทยและบอนด์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดี การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้ โดยเฉพาะหากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านสำคัญที่มองไว้ได้ คาดว่า เงินบาทอาจได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าบ้าง จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

อนึ่ง ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ (ให้นึกถึงความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตก่อนหน้า) ซึ่งหากดัชนีดังกล่าวปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สูงกว่าคาด และดัชนีด้านราคาในภาคการบริการก็เร่งตัวขึ้นอีก เราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดอาจยังคงกังวลแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ ชะลอตัวลงยาก และหนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจเห็นเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อได้บ้าง